ประวัติการทอผ้าไหมบ้านสังแก
บ้านสังแกได้จัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ตั้งแต่ปี 2535 และได้ส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม โดยมีนางวิไลพร บรรลือทรัพย์ ประธานกลุ่มทอผ้าไหมเป็นผู้คิดริเริ่ม โดยมีแรงบันดาลใจจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงมีน้ำพระหฤทัยสนับสนุนกลุ่มทอผ้าทั่วทุกภาค จึงได้มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมา มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อนำเส้นไหมมาทอ เริ่มการทอผ้าไหมด้วยกี่กระทบแบบโบราณและเป็นแบบกี่กระตุกในปัจจุบัน ลวดลายดั้งเดิมโดยได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ เริ่มทอผ้าด้วยกี่กระตุกเมื่อปี 2538 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้
จากการสัมภาษณ์ คุณยายสำเนียง เครือวัลย์ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 หมู่ที่ 6 ตำบลแตล
อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
ได้กล่าวว่า การทอผ้านั้นได้มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยรุ่นบรรพบุรุษ
ปู่ ย่า ตา ยาย
ของเราโดยไม่ทราบว่าใครคือผู้ริเริ่มในการทอผ้า แต่การทอผ้าในสมัยนั้นเป็นการทอแบบกี่โบราณ การย้อมสีไหมด้วยการใช้เปลือกไม้
ส่วนการมัดลายนั้นก็มัดตามลายผ้าที่บรรพบุรุษได้เก็บหรือเอาไว้ให้ลูกหลาน
และยังกล่าวอีกว่าการทอผ้าสมัยนี้นั้นได้เปลี่ยนแปลงจากสมัยโบราณมากจากที่เคยด้วยกี่โบราณก็มาทอแบบกี่กระตุกที่สามารถทอได้อย่างรวดเร็วส่วนลายก็มีการประดิษฐ์ขึ้นเองบ้างโดยใช้จินตนาการและปรับปรุงให้สวยกว่าเดิม
ส่วนการกรอไหมหรือการปั่นไหมนั้นก็จะใช้เครื่องในการช่วยเพื่อให้เร็วและทันใจต่อผู้ทอ
จากการสัมภาษณ์ นางสำรวย ศรีดา อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 6 บ้านสังแก
ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ
จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การทอผ้าไหมหมู่บ้านสังแกนั้นได้มีมานานแล้วตั้งแต่รุ่น ปู่ ย่า ตา
ยาย มีการทอแบบกี่โบราณ แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าใครคือผู้ทอผ้าไหมเป็นคนแรกรู้แต่เพียงว่าการทอผ้าไหมนั้นมีมาตั้งแต่บรรพบุรุษและสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้