- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
บทความ
แบบทดสอบ
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
แบบทดสอบความรู้ออนไลน์ แบบทดสอบความรู้ 1. หมู่บ้านสังแกตั้งอยู่ที่ใดในจังหวัดสุรินทร์ หมู่ที่ 5 ตำบลแงล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ หมู่ที่ 6 ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ หมู่ที่ 7 ตำบลแมล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ หมู่ที่ 8 ตำบลแวล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ 2. บ้านสังแกเดิมชื่อว่าอะไร บ้านแจรน บ้านจระแก บ้านสะแก บ้านระแม 3. ผู้ใหญ่บ้านคนแรกของบ้านสังแกคือใคร นายแก้ว ฉิมมาลี นายยิ ศรีวิเศษ นายจำเริญ บันลือทรัพย์ นายแก้ว ลักขษร 4. ทางทิศใต้ของหมู่บ้านสังแกมีวัดชื่อว่าอะไร สำนักสงฆ์เนติธรรม สำนักสงฆ์บ้านสังแก สำนักสงฆ์บ้านสะแก สำนักสงฆ์ศรีสังแก 5. ใครเป็นผู้ใหญ่บ้านที่ปกครองหมู่บ้านสังแกได้นานที่สุด นายยิ ศรีวิเศษ นายเหลิน บุตรดีขันธ์ นายแก้ว ฉิมมาลี นายสมบูรณ์ พิมพ์จันทร์ 6. ปรัชญาประจำหมู่บ้านสังแกมีอยู่ว่าอ่างไร มุ่งพัฒนา เน้นคุณธรรม กีฬาเด่น สามัคคี สามัคคี กีฬาเด่น เน้นคุณธรรม มุ่งพัฒนา มุ่งพัฒนา สามัคคี กีฬาเด่น เน้นคุณธรรม มุ่งพัฒนา กีฬาเด่น เน้นคุณธรรม สาม
บทที่ 3 การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การปลูกหม่อนของหมู่บ้านสังแก จากการสัมภาษณ์ คุณยายพัดสา ทองนำ บ้านเลขที่ 39/1 ได้กล่าวว่า การปลูกหม่อนของหมู่บ้านสังแกนั้นจะต้องเตรียมการวางแผนเพื่อให้สอดคล้องกับการเลี้ยงไหม จำนวนหม่อน 1 ไร่ จะต้องเลี้ยงไหมได้ประมาณ 3-5 แผ่นหรือที่เรียกว่ากระจาดเลี้ยงไหมต่อปี ( รุ่นละ 1 แผ่นๆละประมาณ 10,000-15,000 ตัว) ปีละ 3-4 รุ่น และยังกล่าวอีกว่าแปลงไหมที่ดีควรปลูกระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 2 เมตร และระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1 เมตร หรือแล้วแต่เราจะวางและไม่ควรปลูกติดกันเกินไปเพราะจะทำให้เวลาต้นหม่อนโตขึ้นมาจะได้ไม่ต้องเบียดเสียดกันและยังง่ายต่อการเก็บอีกด้วย จากการสัมภาษณ์ คุณยายสำเนียง บรรลือทรัพย์ บ้านเลขที่ 37 กล่าวว่าการปลูกหม่อนนั้นจะต้องเตรียมดินก่อนที่เราจะปลูก เราจะต้องไถเพื่อเปิดร่อง รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก และต้องมีน้ำเลี้ยงมากพอสมควร บางบ้านก็ต่อท่อน้ำเพื่อใช้ในการรดต้นหม่อน และในการปลูกระยะแรกเราควรที่จะเอาฟางมาวางไว้ข้างบนเพื่อที่จะได
บทที่ 6 การผลิตและการจำหน่าย
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
การผลิตและการจำหน่าย ในการผลิตผ้าไหมของหมู่บ้านสังแกนั้นได้ผลิตขึ้นเพื่อการจำหน่ายสู่ท้องตลาดและผลิตเพื่อการส่งเสริมอาชีพและรายได้หลังจากการว่างจากการทำไร่ ทำนา และยังเป็นโครงการของกลุ่มสตรีทอผ้าไหมบ้านสังแก ผ้าไหม 1 ผืน จะจำหน่ายผืนละประมาณ 1,000-15,00 จะขึ้นอยู่กับการยกลายหรือการผสมผสานของลายที่มัดยากและในช่วงที่เป็นเทศกาล เช่น เทศกาลวันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ วันเข้าพรรษาและวันออกพรรษา ในเวลา 3 - 4 วัน จะทอได้ประมาณ 1-2 ผืน ลายยำ เมือน ( ความกว้าง 1.5 เมตร ความยาว 2.5 เมตร ขายในราคา 1,300 บาท / ผืน) ลายตาชั่งหรือลายพระเทพ (ความกว้าง 1.5 เมตร ความยาว 2.5 เมตร ขายในราคา 1,300 บาท / ผืน) ลายเทียน (ความกว้าง 1.5 เมตร ความยาว 2.5 เมตร ขายในราคา 1,300 บาท / ผืน) ลายเต่างับ (ความกว้าง 1.5 เมตร ความยาว 2.5 เมตร ขายในราคา 1,300 บาท / ผืน) ลายนกยูงกับดอกกระเจียว
บทที่ 5 การทอผ้าไหม
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
การทอผ้าไหม การทอผ้าไหม มรดกทางวัฒนธรรมของชาวสุรินทร์โบราณ อย่างหนึ่งที่ทิ้งไว้ให้แก่ชาวสุรินทร์เชื้อสายเขมรในปัจจุบันคือ ศิลปะในการทอผ้าไหม เพราะถึงแม้ว่า ผ้าไหมจะมีการทอใช้ในท้องที่หลายแห่งของประเทศไทยก็ตาม แต่รูปแบบของศิลปะ ลวดลาย และวิธีการทอผ้าในท้องที่ดังกล่าวนั้น ก็ไม่เหมือนที่มีอยู่ในท้องที่จังหวัดสุรินทร์ การเตรียมเส้นไหม ชาวสุรินทร์สมัยก่อน เวลาอพยพครอบครัวไปอยู่หมู่บ้านอื่น สัมภาระที่ต้องขนกันมาก ดูเหมือนว่าจะเป็นเครื่องมือทอผ้า เพราะดูเหมือนว่าการบรรทุกเครื่องมือทอผ้านั้น เกวียนเล่มหนึ่งแทบจะขนไม่หมด เพราะเครื่องมือเหล่านั้นมีมาก ในการเตรียมเส้นไหมก่อนที่จะเข้ากี่ทอผ้า ก็เช่นเดียวกัน ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีแม่กับลูกสาว 2 คน ช่วยกันเตรียมเส้นไหมเพื่อทอผ้าไหมมัดหมี่ เขาจะต้องใช้เวลาในการเตรียมเส้นไหม เป็นเวลาถึง 3 เดือนทีเดียว นั่นก็หมายความว่า เขาจะต้องใช้เวลาหลังการเก็บเกี่ยวทั้งฤดูกาล เพียงเพื่อทอผ้าไหมให้ได้เพียง 1 กี่เท่านั้น (ถ้าเป็นผ้านุ่ม จะได้ประมาณ 12 ขีด 15 ผืน ต่อหนึ่งกี่) ก.